ASTvผู้จัดการรายวัน -“
“ลิฟต์ฮิตาชิ” เปิดสำนักงานใหม่ ซอยอ่อนนุช รองรับความต้องการลูกค้า มั่นใจเดินหน้าทุ่มงบลงทุนขยายโรงงานเพิ่มอีก 1,150 ล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิต 5,000 ตัวต่อปี วางแผนทั้งระยะสั้น และระยะยาว ขยายกำลังการผลิต เพิ่มการส่งออก ประกาศขอเป็นผู้นำวงการลิฟต์บันไดเลื่อน และทางเลื่อนในเมืองไทย คาดการณ์ตลาดรวมปีนี้เติบโตกว่า 10%
นายพรเทพ พรประภา ประธานกรรมการ บริษัท สยามฮิตาชิ เอลลิเวเตอร์ จำกัด หนึ่งในกลุ่มสยามกลการ ผู้ผลิต จำหน่าย ติดตั้ง และบริการบำรุงรักษาลิฟต์ บันไดเลื่อน และทางเลื่อน ภายใต้แบรนด์ HITACHI ด้วยอะไหล่แท้แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เพื่อก้าวสู่การบริการที่สมบูรณ์แบบครบวงจร ทางบริษัทฯ ได้ย้ายสำนักงานใหญ่จากเดิมที่ RS Tower ถนนรัชดาภิเษก ไปยังบ้านเลขที่ 30 ซอยอ่อนนุช 55/1 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250 โทรศัพท์ 02-320-5777 โทรสาร 02-320-5859-60 พร้อมกับการให้บริการตาม สโลแกน ที่ว่า “มิตรแท้เคียงข้างคุณ” ด้วยระบบ Call Center 02-641-3030 และระบบบริการ Quick Team ตลอด 24 ชั่วโมงทั่วประเทศ โดยสำนักงานใหม่ ใช้งบลงทุนกว่า 200 ล้านบาท ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 5 ไร่ ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน 1,990 ตารางเมตร และอาคารคลังสินค้า 2,376.5 ตารางเมตร
นอกจากการลงทุนในส่วนของสำนักงานใหญ่แล้ว ทางบริษัทฯ ได้ทุ่มเงินลงทุนเพิ่มอีก 1,150 ล้านบาท ในส่วนของการขยายโรงงาน และเพิ่มกำลังการผลิต เข้ามาเพื่อรองรับการเติบโตของตลาด โดยมีเป้าหมายที่จะขยายกำลังการผลิต เป็น 5,000 ตัวต่อปี ภายในปี 2015 และยังเตรียมแผนการลงทุนในระยะยาวไว้ในระยะ 10 ปี ที่จะเพิ่มกำลังการผลิต เป็น 10,000 ตัวต่อปี ในปี 2020 และมีรายได้ประมาณ 10,000 ล้านบาท ในปี 2020 สำหรับแผนการตลาดภายในประเทศ บริษัทฯ มีแผนการตลาดที่จะขยายสัดส่วนการตลาดภายในประเทศจาก 14% ในปี 2010 เป็น 25% ในปี 2015 รวมทั้ง มีแผนการขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาว, พม่า , กัมพูชา และเวียดนาม โดยขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาเรื่องของ Logistic ในการขนส่งสินค้าไปยังประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะทางถนน และทางรถไฟเพื่อลดต้นทุน ในการขนส่งไปยังประเทศนั้นๆ
“แผนการลงทุนทั้งหมดนี้ เป็นเป้าหมายสำคัญของบริษัทฯ ที่ต้องการจะกลับมาเป็นผู้นำทางด้านตลาดลิฟต์บันไดเลื่อนและทางเลื่อนอีกครั้ง โดยในอดีต HITACHI ถือเป็นผู้นำในธุรกิจนี้มาโดยตลอด ซึ่ง HITACHI เป็นผู้นำเข้าและติดตั้งบันไดเลื่อนตัวแรกในประเทศไทยที่ห้างไทยไดมารู และ HITACHI ยังเป็นผู้นำเข้า และติดตั้งลิฟต์กระจกตัวแรกในประเทศไทยที่ห้าง ROBINSON ราชดำริ รวมทั้ง ปัจจุบัน HITACHI ยังเป็นผู้นำเข้าและติดตั้งทางเลื่อนอัตโนมัติที่ยาวที่สุดในประเทศไทยกว่า 100 เมตร ที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ช่วงประมาณ 3-4 ปี อาจเป็นเพราะผลพวงเรื่องของภาวะเศรษฐกิจ ที่ชะลอตัวทั้งจากปัญหาเรื่องของการเมืองภายในประเทศในช่วงระยะที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อโครงการต่างๆ ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทฯ ตกลงมาอยู่อันดับ 3 ของตลาด ซึ่งจากนี้เป้าหมายของเรา คือ การกลับไปเป็นผู้นำตลาดอีกครั้ง จากแผนการลงทุนทั้งในระยะสั้น และระยะยาวที่วางไว้ และต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร” นายพรเทพ กล่าว
นายพรเทพ กล่าวต่อไปว่า สำหรับโปรดักท์ใหม่ในปี 2011 นี้ HITACHI เตรียมเปิดตัว ลิฟต์รุ่นใหม่ คือ รุ่น VFI-II ที่มีวิวัฒนาการและถูกออกแบบโดยใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ล่าสุด เพื่อให้เป็นลิฟต์ที่ช่วยรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมในโลก [Environmentally Friendly] และเป็นลิฟต์ที่ใช้ได้สำหรับอาคารขนาด 3-4 ชั้น จนถึง 30 ชั้น โดยเป็นลิฟต์ที่ใช้ PM Motor [Permanent Magnet-Type] ซึ่งจะทำให้เพิ่มประสิทธิภาพ และลดการใช้พลังงานลงได้ประมาณ 15% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ๆ นอกจากนี้ ลิฟต์รุ่น VFI-II นี้ยังใช้เทคโนโลยีของหลอด LED มาทดแทนการใช้หลอดไฟแบบเดิม ๆ เพื่อประหยัดพลังงาน และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า รวมทั้ง ยังมีระบบ Regenerative System ที่ช่วยประหยัดพลังงาน โดยที่มอเตอร์จะทำหน้าที่เหมือน generator เมื่อลิฟต์กำลังวิ่งขึ้นจะสร้างกระแสไฟฟ้านำส่งกลับไปใช้ในภายในอาคาร
นอกจากนี้ ลิฟต์ HITACHI ยังได้ออกระบบการควบคุมรุ่นใหม่ Destination Floor Reservation System หรือ (D F R S) สำหรับ อาคารขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขนถ่ายผู้โดยสารในอาคาร โดยผู้โดยสารสามารถกดชั้นที่ต้องการจาก Key Pad หน้าประตูชานพักเท่านั้นแทนแบบปกติที่จะกดจากภายในตู้ลิฟต์ ซึ่งจะทำให้สามารถกำหนดลิฟต์ที่จะนำผู้โดยสารไปยังชั้นที่ต้องการได้ทันทีขณะที่รออยู่หน้าประตูชานพัก โดยที่ระบบควบคุมจะสามารถกระจายจำนวนผู้โดยสารให้เหมาะสมกับลิฟต์ที่ใช้งานไม่ให้เกิดความแออัดและรอลิฟต์นาน
นายพรเทพ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับผลประกอบการในปี 2010 ที่ผ่านมา ผลประกอบการยอดขายรวมทั้งสิ้น เป็นเงิน 1,289 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปี 2009 โดยแบ่งเป็นยอดขาย ในประเทศ 1,089 ล้านบาท และส่งออกไปภูมิภาคเอเซีย 200 ล้านบาท และในปี 2011 บริษัทตั้งเป้าผลประกอบการยอดขายรวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 1,580 บาท โดยมีอัตราเพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับปี 2010 โดยแบ่งเป็นยอดขายในประเทศ 1,300 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 20% และส่งออกไปภูมิภาคเอเซีย 280 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับปี 2010 อันเนื่องมาจากการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจทั้งในประเทศ และในภูมิภาคเอเซีย และคาดว่าในปี 2011 นี้ ธุรกิจก่อสร้างจะมีอัตราการเจริญเติบโตต่อเนื่องจากปีที่แล้ว โดยเฉพาะการก่อสร้างอาคาร ออฟฟิต คอนโด บริเวณริมสถานนีรถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการเพิ่มขึ้น และตลาดรวมจะมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นประมาณ 10% โดยที่มีมูลค่าตลาดรวมในปี 2011 จะอยู่ที่ประมาณ 7,000 ล้านบาท
โรงงานผลิตลิฟต์ฮิตาชิแห่งใหม่ ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร 57 (เฟส 9) บนเนื้อที่กว่า 62 ไร่ ประกอบด้วยส่วนอาคารสำนักงาน และส่วนของโรงงาน 30,000 ตารางเมตร มีอัตรากำลังการผลิตเป็น 5,000 ตัว ต่อปี และผลิตลิฟต์ในรุ่นที่ มีความเร็วตั้งแต่ 60-150 เมตรต่อนาที เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดและลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ อาทิ ประเทศในกลุ่มประเทศแถบอาเซียน, ตะวันออกกลาง และอินเดีย โดยโรงงาน จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ประมาณกลางปี 2011 และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2012 และสามารถเริ่มการผลิต ในปี 2013” นายพรเทพ กล่าวทิ้งท้าย
โดย ASTVผู้จัดการรายวัน | 26 เมษายน 2554 15:44 น. |